Camouflage - Dhamma Talk  By  cover art

Camouflage - Dhamma Talk

By: Camouflagetalk
  • Summary

  • Dhamma Talk by Ajahn Camouflage, more info camouflagetalk.com
    Copyright 2016 Camouflagetalk
    Show more Show less
Episodes
  • 361.ความครอบงำที่ลึกที่สุด
    May 10 2024

    บรรยายเมื่อ 05-05-2567

    ผมแค่ต้องการมีชีวิตที่ ไม่ถูกอิทธิพลของความไม่จริงครอบงำชีวิต แค่นั้น

    เราใช้คำว่า ครอบงำ แปลว่าของที่มาครอบงำนั้น ต้องเป็นของที่ไม่จริง

    เช่น ตอนนี้มีกิเลส แล้วผมมีความคิดว่า ผมจะทำยังไงดี ที่จะไม่มีกิเลสตัวนี้ซักทีนึง

    สำหรับผม วิธีคิดแบบนี่แหละ คือความครอบงำ

    และผมเห็นความครอบงำนั้น ทันทีที่เห็น ผมก็พ้นจากความครอบงำนั้น

    แล้วผมจึงมีความสามารถที่จะเผชิญกับกิเลสได้อย่างแท้จริง

    และผมศึกษามัน เรียนรู้มัน ว่ามันคืออะไร และนี่คือความสามารถที่เรียกว่า การเห็นตามเป็นจริง

    ...

    ความไม่ทุกข์ มันง่าย ๆ มันมีอยู่แล้ว

    มันไม่ใช่การที่ใครสักคนกำลังปฏิบัติเพื่อจะไปถึงที่นั่น เพราะที่นั่นมันมีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปพยายามหาทางจะไปถึง

    แต่สิ่งที่มันมีอยู่ในชีวิตของคนคนหนึ่ง ซึ่งมีมากกว่าความไม่ทุกข์ นั่นคือความทุกข์ คือกิเลสทั้งหลายที่มีอยู่นี้

    เรามีความสามารถจะเข้าใจมันได้มั้ย ?

    จะแจ่มแจ้งมันได้มั้ย ว่ามันคืออะไร ?

    ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนให้รู้ทุกข์ เรารู้มั้ย?

    ทุกวันนี้เรารู้ทุกข์มั้ย? หรือมัวแต่สนใจแต่จะรู้สภาพที่ไม่ทุกข์

    สภาพไม่ทุกข์ ... ไม่ต้องทำ ผมชี้ให้เห็นเลยว่า มันมีอยู่แล้ว ไม่ต้องทำอะไรเลย

    เบื้องต้น ผมชี้ให้เห็น เพื่อให้คนเหล่านั้นออกมาจากการปฏิบัติ ที่มีหัวใจที่จะแสวงหาความพ้นทุกข์ ซึ่งไม่ต้องทำแบบนั้น มันมีอยู่แล้ว

    แต่สิ่งที่ต้องทำ คือ แจ่มแจ้งสิ่งที่มีอยู่ ที่มันอยู่ในชีวิตเรา ที่มันให้ทุกข์ ให้สุข ให้ความรู้สึกต่าง ๆ

    แจ่มแจ้งมันว่า มันคืออะไร

    นี่คืองานของเรา

    #Camouflage 05-05-2567

    Show more Show less
    7 mins
  • 360.ไม่เป็นอะไร กับอะไร ที่แท้จริง
    May 3 2024
    บรรยายเมื่อ 21-04-2567 ความไม่เป็นอะไร กับอะไร แท้จริงมันคืออะไร? คือความสามารถของชีวิตที่จะเป็นได้ทุกอย่าง โดยที่ไม่มีความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นเลย ถ้านักปฏิบัติธรรมเราคนนึงมีความโกรธเกิดขึ้นในใจ อย่างรุนแรง อย่างปานกลาง อย่างเล็กน้อย สังเกตไหมว่า เรามีความเห็นต่อความมีอยู่ของมัน ในเชิงของการประเมิน ตัดสิน เหล่านั้นทั้งหมด คือ #ความขัดแย้ง ปัญหาถัดไปก็คือว่า ทำไมถึงเกิดความขัดแย้งขึ้นภายใน? เพราะชีวิตนั้น ยังมืดบอดด้วยอวิชชา ซึ่งความมืดบอดนั้นคือ ทิฏฐิ ความเชื่อ สิ่งที่ควรจะเป็น คืออนาคต คือการตัดสินอะไรต่าง ๆ มากมาย และความขัดแย้งภายในนั้นเอง คือความที่ชีวิตไม่มี #ความกระจ่างชัด ความกระจ่างชัดของชีวิตนี้มีอยู่แล้ว โดยเนื้อแท้ของชีวิตเป็นความกระจ่างชัด แต่มันถูกปกคลุมด้วยความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากอวิชชาในรูปแบบต่าง ๆ และนี่คือเหตุผลที่ทำไมคนคนนึง จึงต้องมี #ความแจ่มแจ้งต่อทุกย่างก้าวของชีวิต ความแจ่มแจ้งนั้นเอง คือ ขณะแห่งการขัดเกลา ความแจ่มแจ้งในขณะนั้นเอง คือ ขณะแห่งการจบสิ้นความขัดแย้งของชีวิต และผมไม่ได้ Demand ต้องการ ให้ใครสักคนหนึ่งไปฝึกอะไร แล้วถึงค่อยมาแจ่มแจ้ง เพราะความแจ่มแจ้งนั้น สามารถเริ่มต้นได้ทันที ตั้งแต่ขณะนี้ เรามีวัตถุดิบทุกอย่างพร้อมอยู่เสมอที่จะแจ่มแจ้ง ถ้าเราพูดในเชิงสัมพัทธ์ เราประเมินตัวเองว่า เราวัตถุดิบน้อย ผมบอกว่า ถ้าอย่างนั้นเราเริ่มจากเรื่องทุกเรื่อง ที่เล็กๆ การคิด...ทำไมคิดแบบนี้ ? การพูด...ทำไมพูดแบบนี้ ? การทำ...ทำไมทำแบบนี้ ? การตอบโต้ Response Reaction ต่างๆ…ทำไมเป็นแบบนี้ ทำไมถึงมีการ Action แบบนี้ ? เราไม่ต้องการวัตถุดิบอะไรเลยในแบบที่เราพยายามจะฝึกกัน ต้องการใช้อย่างเดียว คือ #ความใส่ใจต่อชีวิตนี้ และผมบอกว่า ทุกคนมีสมบูรณ์พร้อมอยู่แล้ว มันอยู่ที่เราจะใส่ใจมั้ย แค่นั้น ... ความเป็นคนดี ก็ยากระดับหนึ่ง ความเป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่อง ก็ยากอีกระดับหนึ่ง แต่ความสามารถในการเป็นทุกอย่างสมบูรณ์ โดยไม่มีความขัดแย้ง นั่นคือสิ่งที่ยากที่สุด คนดี ไม่อยากเป็นคนไม่ดี คนบริสุทธิ์ ...
    Show more Show less
    21 mins
  • 359.ชีวิตที่ไม่ต้องเลือก
    Apr 27 2024
    บรรยายเมื่อ 06-04-2567 ชีวิตเราเลือกสิ่งต่าง ๆ ด้วยเหตุผล ด้วยการได้ประโยชน์ หรือเสียประโยชน์ ดีหรือไม่ดี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิต แต่ส่วนที่สำคัญกว่า คือ การเท่าทันสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นทั้งหมด หรือที่ผมสอนว่า “แจ่มแจ้ง” แล้วปัญญา หรือทิศทางที่จะรู้ว่าต้องเลือกไปทางไหน จึงจะเกิดขึ้น และนั่นหมายความว่า มันจะเกิดชีวิตที่ไม่ต้องเลือก เพราะมันเป็นสิ่งที่แจ่มแจ้งอยู่แล้ว ว่าจะต้องเลือกแบบไหน ทำไมเราต้องมีชีวิตที่แจ่มแจ้ง? เพราะชีวิตเป็นความสับสนอยู่ตลอดเวลา กับสิ่งต่าง ๆ ที่เรามีปฏิสัมพันธ์ด้วย และเราต้องเลือกอยู่เสมอในชีวิตของเรา เราต้องเห็นโครงสร้างใหญ่แบบนี้ ชีวิตของเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่าง ๆ อยู่เสมอ และตลอดชีวิตของเราต้องเลือก และเราเลือกด้วยการชั่งน้ำหนักของเหตุผลต่าง ๆ นานา ซึ่งเหตุผลก็เป็นความกระจ่าง ในสิ่งที่เราตัดสินใจในระดับหนึ่ง ซึ่งมนุษย์เราก็ใช้วิธีนั้นมาตลอด เพื่อจะตอบตัวเองได้ ตอบคนอื่นได้ ในการที่เราเลือกทำอะไรสักอย่างนึง ถ้าเราสัมผัสจริง ๆ รู้สึกจริง ๆ เราจะรู้ได้ว่า การใช้เหตุผลในการเลือกทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ลึก ๆ มันก็ยังเป็นความสับสนอยู่เหมือนกัน ว่าจริง ๆ แล้วมันถูกไหม เพราะเราจะพบว่า เหตุผลของเรา กับเหตุผลของคนอื่น ไม่เหมือนกัน ถ้าคนที่เค้าเชื่อเหมือน ๆ เรา เค้าก็อาจจะคิดเหมือนกับเรา แต่คนที่เค้าเชื่อไม่เหมือนเรา เค้าก็คิดอีกอย่างหนึ่ง ถ้าเราเห็นโครงสร้างแบบนี้ของชีวิต เราก็จะพบว่า ชีวิตนั้นจะพึ่งพาแต่ความมีเหตุผลในแบบที่เราคิด และทำมาตลอด มันก็ดูจะเป็นสิ่งที่ค่อนข้างจะคอนแคลน และไม่ค่อยน่ามั่นใจเท่าไหร่ และเป็นความรู้สึกว่าไม่จริง ถ้าเราเห็นโครงสร้างของชีวิตอันนี้ ชีวิตนั้นจะเริ่มเปิด Dimension ที่ผมบอก ก็คือ Dimension ของปัญญา ที่เกิดขึ้นจากชีวิตที่ไม่ต้องเลือก ... ผมสอนให้เราแจ่มแจ้งความจริงที่มันปรากฏอยู่ในชีวิตของเรา เช่น ผมบอกว่า ชีวิตของเรามีสัมพันธภาพ มีปฏิสัมพันธ์กับหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน พี่น้อง และหลายอย่างเราต้องเลือกในการดำเนินชีวิต ...
    Show more Show less
    15 mins

What listeners say about Camouflage - Dhamma Talk

Average customer ratings

Reviews - Please select the tabs below to change the source of reviews.