• 25670306pm--สร้างสมดุลให้ชีวิตด้วยสติ
    May 22 2024

    6 มี.ค. 67 - สร้างสมดุลให้ชีวิตด้วยสติ : แต่ถ้ามีสติ เจริญสติมันก็จะทำให้เกิดความสมดุล เวลาทำประโยชน์ตนมากเกินไป มันก็จะทักท้วงว่าให้รู้จักนึกถึงผู้อื่นบ้าง หรือเวลาทำอะไรเพื่อผู้อื่นก็มีสติ ไม่ทิ้งการรู้จักรักษาใจให้สงบ รู้จักการปล่อย การวาง อันนี้เรียกว่ามีความสมดุลระหว่างการทำกิจและการทำจิต

    ถ้าอยากให้ชีวิตเรามีความสมดุลในหลายระดับอย่างที่ว่ามานี้ มันไม่ต้องทำอะไรมากมาย แค่เจริญสติ ให้มีสติ ให้มีความรู้สึกตัวอยู่เสมอ อย่างน้อย ๆ มันก็จะเกิดความเฉลียวใจว่าตอนนี้ชีวิตกำลังขาดความสมดุลไปแล้ว แล้วต้องกลับมาให้เกิดความสมดุลกับสิ่งที่ขาดไป เพราะฉะนั้นการเจริญสตินั้นมันจึงเป็นการปฏิบัติที่คุ้มค่ามาก ทำอย่างเดียวแต่ได้ประโยชน์หลายอย่างทีเดียว แม้จะไม่ใช่ประโยชน์ที่เป็นตัวเงินทอง แต่มันก็ทำให้ชีวิตเราสามารถที่จะเดินหน้าไปสู่จุดหมายที่พึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะจุดหมายที่เป็นกุศล
    Show more Show less
    29 mins
  • 25670305pm--แค่ไม่ยุ่งก็ไม่ทุกข์
    May 21 2024

    5 มี.ค. 67 - แค่ไม่ยุ่งก็ไม่ทุกข์

    Show more Show less
    29 mins
  • 25670304pm--เจออะไรก็อย่าลืมดูใจตน
    May 20 2024

    4 มี.ค. 67 - เจออะไรก็อย่าลืมดูใจตน : ดังนั้นธรรมะสำคัญตรงนี้ ทำงานอะไรก็ตาม นอกจากความขยันหมั่นเพียร ความซื่อสัตย์สุจริต จะต้องมีสติ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อให้เราทำงานได้ดี ต่อเนื่อง ไม่เหยาะแหยะ แต่ยังช่วยทำให้เราสามารถเกี่ยวข้องกับผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านาย เกี่ยวข้องด้วยใจที่ไม่ทุกข์ ทำให้เราสามารถที่ประพฤติตนได้อย่างถูกต้อง

    ใครเขาจะเป็นอะไรก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เอาการกระทำของเขามาบั่นทอน ไม่ใช่แค่บั่นทอนความสุขของเรา แต่บั่นทอนความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของเราให้ถูก ให้ดี ซึ่งถ้าหากว่าเราจะทำได้ก็อาจจะต้องบอกเพื่อนๆ ว่าอย่าไปท้อแท้ เมื่อเจอเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านายแบบนี้ เขาทำไม่ถูกก็เป็นเรื่องของเขา ข้อสำคัญก็คือเราต้องทำให้ถูก เขาไม่รับผิดชอบก็เป็นเรื่องของเขา แต่เราก็ยังรับผิดชอบต่อไป ไม่ใช่ว่าพอเขาทำไม่ถูก เราก็เลยท้อแท้ แล้วก็เลยบกพร่องในหน้าที่ ปล่อยปละละเลย ที่จริงอันนี้มันเป็นหน้าที่ที่จำเป็น แม้กระทั่งกับความสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย ระหว่างพ่อแม่ลูก พ่อแม่จะเป็นอย่างไร บกพร่องในหน้าที่อย่างไร แต่ลูกนี้ก็ไม่คับแค้น หรือไม่ละเลยในการที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้ถูกต้อง พ่อไม่ทำหน้าที่ ติดเหล้า แม่เล่นการพนัน แต่ลูกก็ยังมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ไม่ใช่พอเขาทำตัวไม่ถูกต้อง ลูกก็เลยเลิกเคารพนับถือพ่อแม่ ไม่สนใจที่จะแสดงความกตัญญูรู้คุณ อันนี้ก็ไม่ถูก
    Show more Show less
    26 mins
  • 25670227pm--สุขสุดท้ายที่ปลายทาง
    May 19 2024

    27 ก.พ. 67 - สุขสุดท้ายที่ปลายทาง : เราทุกคนรู้ว่าสักวันหนึ่งตนเองต้องตาย แต่ส่วนใหญ่แล้วยากที่จะทำใจยอมรับได้ มองเห็นความตายเป็นสิ่งเลวร้ายน่ากลัว จึงมีชีวิตเหมือนคนลืมตาย พยายามทำตัวให้วุ่น ทำใจไม่ให้ว่าง จะได้ไม่ต้องนึกถึงความตาย แต่ในที่สุดก็หนีความตายไม่พ้น แต่ก่อนจะถึงตรงนั้นก็ต้องประสบกับความทุกข์ทรมานแสนสาหัสเมื่อรู้ว่าความตายมาประชิดตัว เช่น พบว่าตนเองเป็นโรคร้ายที่รักษาไม่ได้ ผลก็คืออยู่เหมือนตาย หรือรู้สึกตายทั้งเป็น เพราะไม่เคยเตรียมใจไว้เลย ครั้นถึงเวลาที่ต้องจากโลกนี้ไป ก็มีอาการหลงตาย คือตายอย่างทุรนทุราย เป็นที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง

    ในเมื่อเราต้องตายอย่างแน่นอน ไม่มีอะไรดีกว่าการยอมรับความตายและเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมรับความตายทุกขณะ ท่าทีดังกล่าวไม่เพียงช่วยให้เราเผชิญความตายได้ด้วยใจสงบเท่านั้น หากยังส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของเราด้วย ทำให้ใฝ่ในการทำความดี หลีกหนีความชั่ว ไม่หลงมัวเมาในทรัพย์สมบัติและเกียรติยศชื่อเสียง เพราะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นของชั่วคราว ไม่สามารถตามติดตัวไปได้เวลาตาย อีกทั้งไม่ช่วยให้จิตใจสงบเย็นได้เลยเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง การระลึกถึงความตายอยู่เสมอทำให้เราคลายความยึดติดทั้งสิ่งที่น่ายินดีและสิ่งที่ชวนยินร้าย (เช่น ความสูญเสีย ความบาดหมาง) จึงช่วยให้เรามีชีวิตที่ผาสุก โปร่งเบา และสงบเย็น กล่าวอีกนัยหนึ่งหากเรารู้วิธีตายดี ก็ย่อมรู้ว่าจะมีชีวิตที่ดีได้อย่างไร ในทางกลับกันการมีชีวิตที่ดีย่อมช่วยให้เราตายดีในที่สุด ชีวิตที่ผาสุกกับความตายที่สงบ หาได้แยกจากกันไม่
    Show more Show less
    1 hr and 11 mins
  • 25670224pm--คำสอนเพื่อชีวิตอันประเสริฐ
    May 18 2024

    24 ก.พ. 67 - คำสอนเพื่อชีวิตอันประเสริฐ : เดี๋ยวนี้เขามีหนังสือพูดถึงฮาวทู (How to) มากมาย ฮาวทูประสบความสำเร็จ แต่ว่าหนังสือประเภทที่ว่าฮาวทูในยามล้มเหลวไม่ค่อยพูดถึง ฮาวทูให้ชีวิตมีแต่ไต่สู่ความสำเร็จพูดกันเยอะ แต่ไม่ได้พูดถึงเวลาไม่สำเร็จจะรักษาใจอย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนใน “การทำจิตให้ยิ่ง” เราต้องรู้จักฝึกจิตให้สามารถยอมรับสิ่งที่ไม่ถูกใจ สิ่งที่ไม่เป็นไปดั่งใจให้ได้ เพราะคือสิ่งที่เราต้องเผชิญอยู่เสมอ

    ทั้งหมดนี้ก็คือสาระสำคัญของโอวาทปาติโมกข์อย่างที่อาตมาได้กล่าวไว้ นั่นก็คือแผนที่สู่ชีวิตอันประเสริฐ หรือว่าเป็นคำสอนเกี่ยวกับชีวิตอันประเสริฐ ถ้าเราอยากจะมีชีวิตที่ประเสริฐ ก็ต้องทำความเข้าใจ ธรรมทั้ง 6 ประการในโอวาทปาฎิโมกข์ โดยเฉพาะข้อสุดท้ายแล้วก็นำมาปฏิบัติในชีวิตจริง เวลาเจอสิ่งที่ถูกใจก็ไม่ได้ดีใจมาก เพราะว่าเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ถูกใจก็จะไม่ได้เสียใจ หรือปล่อยจิตให้ตก วันนี้เราก็จะมาเวียนเทียนหลังจากการฟังธรรม เวียนเทียนที่วันนี้ เราจะเวียนเทียนด้วยกล้าไม้จะไม่ได้เวียนเทียนด้วยดอกไม้ธูปเทียนเหมือนก่อน เพราะว่าอยากจะให้เราได้ไม่เพียงแต่ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า และพระรัตนตรัย แต่ก็ให้สำนึกในบุญคุณของต้นไม้ เพราะว่าต้นไม้นี้มีส่วนในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระพุทธเจ้าองค์นี้เท่านั้น แต่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ทั้งในอดีตแล้วก็ในอนาคต ต้นมะม่วง ต้นมะพร้าว ต้นมะเดื่อ ต้นประดู่ ต้นสน หรือว่าต้นกากระทิง ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เคยเป็นต้นไม้ที่พระพุทธเจ้าในอดีตทรงประทับในคืนก่อนการตรัสรู้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พุทธเจ้าทุกพระองค์ตรัสรู้ใต้ต้นไม้ รวมทั้งพระศรีอาริย์ซึ่งเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตก็มีการพยากรณ์ว่า พระองค์จะตรัสรู้ใต้ต้นกากระทิง ต้นไม้นี้มีความสำคัญมากต่อการตรัสรู้ ไม่ใช่ของพระพุทธเจ้าในอดีตเท่านั้น รวมทั้งพระอรหันต์จำนวนไม่น้อย เพราะฉะนั้นเมื่อเราระลึกถึงพระพุทธเจ้าก็ขอให้ความระลึกถึงบุญคุณของต้นไม้ด้วย
    Show more Show less
    40 mins
  • 25670223pm--เจอทุกข์แต่ใจไม่ทุกข์
    May 17 2024

    23 ก.พ. 67 - เจอทุกข์แต่ใจไม่ทุกข์

    Show more Show less
    27 mins
  • 25670222pm--อย่าดูแคลนความเพียร
    May 16 2024

    22 ก.พ. 67 - อย่าดูแคลนความเพียร : แล้วมันไม่ใช่แค่เห็นความคิด แต่มันรู้จักทักท้วงความคิดด้วย อย่างที่หลวงพ่อคำเขียนท่านพูดไว้ หน้าที่ของสติอันหนึ่ง คือ การทักท้วงความคิด ไม่ถูกความคิดหลอก ไม่หลงเชื่อความคิดไปอย่างตะพึดตะพือ และไม่ใช่แค่เห็นความคิดอย่างเดียว เห็นความทุกข์ที่เกาะกุมใจ จนกระทั่งสามารถสลัดมันหลุดออกไปได้ เห็นอารมณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งไม่ไปข้องแวะกับมัน

    ฉะนั้นถ้าเราไม่ไปข้องแวะกับมัน มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนกับมีไฟ มีกองไฟกองใหญ่นี้ถ้าเราไม่ไปกระโจนเข้าไปอยู่กลางกองไฟ เราก็ไม่ทุกข์ไม่ร้อน กองไฟมีอยู่แต่เราอยู่ห่างมัน เราก็ไม่เดือดร้อนอะไร ไม่ได้แปลว่าต้องไม่มีกองไฟแล้วถึงจะไม่ทุกข์ไม่ร้อน มีก็ได้แต่ถ้าหากว่าเราอยู่ห่างจากมัน ก็ไม่ทุกข์ร้อนแต่อย่างใด อะไรทำให้ใจอยู่ห่างจากความโกรธ ความทุกข์ เหล่านั้นได้ ก็คือสติ ทำให้เกิดระยะห่าง ไม่ใช่ระยะห่างทางสังคมอย่างที่เรารู้จักในช่วงโควิด แต่มันเป็นระยะห่างทางจิตใจซึ่งเราจำเป็นต้องมี แต่จะเกิดขึ้นได้เมื่อมีสติ มีความรู้สึกตัว การมีสติ การมีความรู้สึกตัว จะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเกิดจากการปฏิบัติบ่อยๆ ปฏิบัติซ้ำๆ ปฏิบัติไม่หยุด แม้จะได้ผลทีละนิดทีละหน่อย ถ้าเราไม่ไปดูถูกผลเล็กผลน้อยนั้น ทำความเพียรไม่หยุด มันก็จะก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงเหมือนกัน
    Show more Show less
    29 mins
  • 25670221pm--สร้างพื้นที่สงบเย็นให้ชีวิต
    May 15 2024

    21 ก.พ. 67 - สร้างพื้นที่สงบเย็นให้ชีวิต : การนึกขึ้นมาได้ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราทำให้มันเกิดขึ้นบ่อยๆ ความระลึกได้มันจะไวขึ้น ไวขึ้น นั่นแปลว่าสติพัฒนาแล้ว สิ่งที่เรามาฝึกก็คือทำให้มันรู้ทันได้ไว ได้เร็วขึ้น แล้วทำอย่างไรจะให้มันรู้ทันได้เร็ว มันก็มีวิธีเดียว คือทำบ่อยๆ ทำบ่อยๆ มันไม่มีวิธีอื่น แล้วก็ต้องให้เวลาในการปฏิบัติ แต่ว่าเราก็มีตัวช่วย เช่นการที่เราปฏิบัติเต็มที่ ไม่มีการพูดคุยกัน ไม่ใช้โทรศัพท์ เพราะถ้าเราเกิดพูดคุยกัน ไถโทรศัพท์ ความคิดมันจะฟุ้งง่าย สติมันจะรู้ทันได้ช้า

    เราก็มีวิธีการตัวช่วยทำให้ความคิดมันไม่รุนแรง แล้วขณะเดียวกันก็ระหว่างที่ใจไม่คิด ก็หางานให้จิตทำด้วยการมารู้กาย การรู้กายนี้สำคัญ รู้ว่ากำลังเดินอยู่ รู้ว่ากำลังยกมือ อันนี้เรารู้กายหรือรู้สึกว่ากายเคลื่อนไหว ซึ่งก็เป็นการหางานให้จิตทำ เพราะถ้าไม่หางานให้จิตทำ จิตมันก็จะเพ่นพ่าน แล้วมันก็จะฟุ้งมากเลย แม้เราจะไม่ห้ามคิด แต่เราก็ไม่ส่งเสริมให้มันคิดจนฟุ้ง เราก็เลยมีตัวช่วยด้วยการหางานให้จิตทำ ด้วยการให้จิตนี้มาอยู่กับกาย มารับรู้การเคลื่อนไหว ซึ่งถ้าทำได้บ่อยๆ ทำได้บ่อยๆ สติมันจะมีความสามารถในการรู้ทันความคิดและอารมณ์ได้เร็วขึ้น เป็นตัวช่วย แต่ว่าเราจะมาเร่งมันไม่ได้ เราไม่สามารถจะเร่งมันได้ นอกจากเราจะทำบ่อยๆ ทำเยอะๆ สติมันจึงจะไว แล้วก็จะรู้ทันความคิดได้เร็ว พอรู้ทันความคิดได้เร็ว การปล่อยการวางความคิดและอารมณ์ก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย แล้วเราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อ เป็นทาสของความคิด ที่มันคอยเอาความทุกข์มาให้เรา มันเป็นวิธีการฝึกจิตให้มีคุณภาพ ให้เป็นมิตรกับเรา แทนที่จะเป็นศัตรูกับเรา มันเป็นขั้นตอนสำคัญในการทำให้เรารักตัวเองอย่างแท้จริง แทนที่จะรักตัวกูหรือว่ารักกิเลส จนถูกกิเลสมอมเมาหลอกให้หลง แล้วก็สร้างความทุกข์
    Show more Show less
    30 mins